หากย้อนไปในอดีต สวีเดนเป็นผู้ส่งออกเหล็ก , ทองแดง , ไม้ เป็นอันดันดับต้นๆ โดยเริ่มมาตั้งแต่ยุคกลาง แต่ภายหลังจากการขนส่งและการคมนาคมมีการพัฒนาดีขึ้น จึงทำให้สวีเดนใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากทุกภาคส่วนได้มากขึ้น โดยเฉพาะไม้ กับแร่เหล็ก รวมทั้งได้มีการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ จึงเป็นส่วนช่วยส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จากความความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน ทำให้นิตยสาร Forbes จัดให้สวีเดนเป็นประเทศที่น่าทำธุรกิจมากที่สุด
ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจอันสำคัญของสวีเดน
- อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เหล็ก , เหล็กกล้า , ไม้ , ผลิตภัณฑ์กระดาษ , อาหารแปรรูป , ยานยนต์
- ประเทศส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เยอรมนี , นอร์เวย์ , อเมริกา , เดนมาร์ก , อังกฤษ
- ทรัพยากรสำคัญของประเทศ ได้แก่ แร่เหล็ก , ทองแดง , ตะกั่ว , สังกะสี , ทองคำ , แร่เงิน , ป่าไม้ , พลังงานน้ำ , พลังงานนิวเคลียร์
- สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกล , เครื่องยนต์ , ไม้ , กระดาษ , เหล็ก , เหล็กกล้า
ความโดดเด่นของสวีเดน
- เป็นผู้นำด้าน ICT หรือพลังงานสะอาด รวมทั้งสร้างงานวิจัยอวกาศโดยมีจุดมุ่งหมายทางสันติ
- ยอดเยี่ยมในด้านการบริหารจัดการขยะโดดเด่นนำหน้าชาติอื่น ซึ่งได้ดำเนินการผ่านโครงการ อันมีชื่อว่า Waste-to-Energy จึงทำให้สวีเดนมีปริมาณขยะฝังกลบไม่ถึงร้อยละ ๑ ของปริมาณขยะทั้งหมด นอกจากนี้ต้องนำเข้าขยะจากต่างประเทศ เพื่อนำไปผลิตพลังงานไฟฟ้า
- สวีเดนเป็นหนึ่งในสมาชิกของ UNSC วาระปี 2017 – 2018 ได้วางนโยบายส่งเสริมทางด้านสันติภาพ , การเจรจา รวมทั้งเพิ่มการมีส่วนร่วมของสิทธิสตรีในงานทางสันติภาพ นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนในเรื่องของการปฏิรูปสหประชาชาติ และการดำเนินการตามวาระการพัฒนา ค.ศ. 2030 นั้นก็คือการไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดย คณะกรรมาธิการยุโรป ยกย่องให้สวีเดนเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสามารถในด้านการคิดค้นรวมทั้งผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเหนือกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยแรงงานอันมีทักษะ ที่ผสมผสานเข้ากับงานวิจัยด้านวิชาการที่มีคุณภาพ
สวีเดนเป็นประเทศมีความโปร่งใสเป็นอันดับต้นๆจากทั่วโลก องค์กร Transparency International จัดให้สวีเดนเป็นประเทศมีความโปร่งใสมากเป็นอันดับ 4 จากทั้งหมด 168 ประเทศ
ส่วนสภาเศรษฐกิจโลก ยกย่องให้สวีเดนเป็นประเทศซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันอยู่อันดับ 6 โดยก้าวข้ามขึ้นมาจากอันดับ 30 และอันดับ 22 ในปี พ.ศ. 2559 โดยสภาเศรษฐกิจโลกกล่าวว่า “ ตลาดแรงงานของสวีเดนมีประสิทธิภาพ มาก รวมทั้งมีอัตราการจ้างงานที่สูง ส่วนจำนวนผู้หญิงในตลาดแรงงานสูงเช่นเดียวกัน ”
จากอันดับที่กล่าวมาได้ส่งผลให้สวีเดน กลายเป็นประเทศอันมีภาพลักษณ์ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าทั้งเรื่องของการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ , ธรรมชาติ , สวัสดิการรัฐ รวมทั้งสิทธิของผู้หญิง